พิจารณาจากการพูดคุยกับผู้ให้บริการเป็นหลัก เนื่องจาก GPS Tracking เน้นการให้บริการหลังการขาย หลังจากติดตั้งเสร็จจะต้องดูแลกันระยะยาว
พิจารณาจากข้อมูลที่ได้จากผู้ให้บริการ มีความน่าเชื่อถือ สามารถอธิบายหรือตอบข้อสงสัยของผู้ต้องการใช้งานได้ดี อัธยาศัยในการพูดเป็นกันเอง
พิจารณาจากคุณภาพอุปกรณ์ GPS Tracking ประเทศที่ผลิต หากเป็นของประเทศจีน อายุการใช้งานก็จะสั้น ส่งข้อมูลไม่ต่อเนื่อง มีผลทำให้ข้อมูลที่จะใช้ในการวิเคราะห์ไม่สมบูรณ์ ของประเทศที่ดีเช่น ไต้หวัน จะมีคุณภาพสูงกว่า ใช้อุปกรณ์ที่ดีกว่า ส่งข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง แข็งแรง ทนทาน
พิจารณาจากราคาอุปกรณ์ GPS Tracking ไม่ควรแพงหรือถูกจนเกินไป และขึ้นกับระยะการรับประกันของสินค้า (หากผู้ให้บริการรายใดแจ้งรับประกันตลอดอายุการใช้งาน ต้องสอบถามข้อมูลให้ละเอียด)
พิจารณาค่าใช้บริการรายปี เพราะเนื่องจาก GPS Tracking ต้องมีการส่งข้อมูลตลอดเวลาผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต เพื่อบอกตำแหน่งจึงต้องใช้ ซิมมือถือในการส่งข้อมูล ดังนั้นจึงเกิดค่าใช้จ่ายกับผู้ใช้บริการ หากเป็นลูกค้าทั่วไปที่จะขอเปิดใช้บริการ Internet แบบ unlimited เองจะราคาค่อนข้างสูงกว่าที่องค์กรติดต่อด้วยกัน ดังนั้นหากต้องการดูรถแบบ Online ค่าใช้จ่ายรายปีไม่ควรแพงจนเกินไป หรือถูกจนเกินไป เพราะหากแพงเกินไปจะมีผลต่อต้นทุนขององค์กร แต่หากราคาถูกเกินไป ต้องพิจารณาถึงการให้บริการและระบบการใช้งาน Software ว่าแสดงข้อมูลรถมีความต่อเนื่องหรือไม่ ค่าบริการโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 3,500 – 4,800 บาท
ขอทดลองใช้งาน Software เพื่อดูว่าตอบโจทย์กับองค์กรของท่านหรือไม่ ใช้งานยากง่ายเพียงใด ส่วนไหนที่ไม่เข้าใจในการใช้งานให้สอบถามกับผู้ให้บริการ เพราะบางโปรแกรมมีรายละเอียดการใช้งานเชิงลึก