ปัจจุบันกระแสในด้านการเปิดเว็บไซต์ในการขายสินค้าผ่านเว็บไซต์หรือ E-Commerce ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย เนื่องจากการขายสินค้าผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเริ่มที่จะสะดวกมายิ่งขึ้น อีกทั้งยังเริ่มต้นด้วยการลงทุนที่ไม่สูงมากนัก ทำให้การขายสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นทำให้มีการแข่งขันที่รุนแรง เช่น การตัดราคาคู่แข่งทางการตลาด รวมไปจนถึงการจัดโปรโมชั่นลดราคา ดังนั้นถ้าหากใครที่กำลังจะตั้งเว็บไซต์ที่จะให้บริการทางด้าน e-Commerce จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆ หรือมองหาตลาดใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสและรายได้ให้กับตนเอง นอกจากนี้ตลาดในทางด้านแฟชั่นยังไม่ค่อยที่จะมีสินค้าทางด้านนี้จำหน่ายออนไลน์มากนัก ขณะเดียวกันช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นทางออนไลน์นั้นยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงจนเกินไป
สำหรับตลาดทางด้านแฟชั่น e-Commerce จะมีการเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามกระแสความนิยมที่ผ่านมา แต่ในหลาย ๆ บริษัทก็มักจะเจอกับปัญหาอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าที่เป็นปัญหาหลักๆรวมไปถึงปัญหาทางด้านบริการหลังการขายที่ไม่อาจจะชนะใจลูกค้าได้รวมไปจนถึงการเปลี่ยนสินค้าอยู่เป็นประจำ เนื่องจากการซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ ไม่สามารถที่จะทดลองใส่ได้เหมือนกับการจับจ่ายตามห้างสรรพสินค้า ฉะนั้นแล้วการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบอินเตอร์เน็ตควรที่จะมีหลักประกันโดยสามารถยืนยันได้ว่าเว็บไซต์นั้นมีความน่าเชื่อถือและไว้ใจได้ ทำให้ผู้ใช้บริการกล้าที่จะใช้บริการ เพราะ e-Commerce ส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้ การชำระเงินผ่านระบบออนไลน์เพราะสะดวกสบายกว่าการชำระเงินผ่านระบบการโอน
ดังนั้นการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ถือได้ว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้เกิดการซื้อขาย ฉะนั้นแล้วผู้ให้บริการจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างความน่าเชื่อถือและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ และที่สำคัญผู้ใช้บริการทั้งหลายก็ควรที่จะสังเกตด้วยว่าเว็บไซต์ดังกล่าวสามารถที่จะป้องกันข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลเกี่ยวกับการเงินของตนเองได้หรือไม่และควรที่จะอ่านรายละเอียดต่าง ๆ บนเว็บไซต์ให้ครบถ้วนก่อนทำการชำระเงินทุกครั้งเพราะนั่นถือได้ว่าเป็นกฎระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง ทำให้มั่นใจได้ว่าการสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์นั้นเป็นผลดีสำหรับตนเองได้อีกด้วย